ข้อมูลพันธุ์ไม้/การนำไปใช้ประโยชน์

รูปภาพ

แสดงรายละเอียดพันธุ์ไม้

กระชายดำ

ขิงทราย (มหาสารคาม), กะแอน ระแอน ว่านกั้นบัง ว่านกำบัง ว่านกำบังภัย ว่านจังงัง ว่านพญานกยูง (ภาคเหนือ)

Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker.

ZINGIBERACEAE

รายละเอียด

ใบเดี่ยวรูปรีหรือรูปไข่ของกระชายดำจะแทงก้านขึ้นมาจากหัวใต้ดินสีเขียวสด ขนาดใบกว้าง 5-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลักษณะปลายใบแหลม ขอบใบหยักตามเส้นใบ ผิวใบเป็นร่องคลื่นตามแนวเส้นใบ ส่วนโคนก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น และขอบก้านใบมีสีแดงอ่อน กลางก้านเป็นร่องลึก

ดอกออกเป็นช่อแทรกขึ้นมาบริเวณซอกก้านใบ ช่อละหนึ่งดอก ดอกมีสีชมพูอ่อน ริมปากดอกสีขาว ก้านช่อดอกยาวประมาณ 5-6 เซนติเมตร กลีบดอกที่ส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร เกสรตัวผู้จะเหมือนกลีบดอก อับเรณูอยู่ใกล้ปลายท่อ เกสรตัวเมียมีขนาดยาวเล็ก ยอดเป็นรูปปากแตรไม่มีขน

เหง้าเป็นรูปทรงกลมเรียงต่อกันเป็นปุ่มปม ส่วนใหญ่มีขนาดเท่ากัน มีหลายเหง้าและอวบน้ำ ผิวเหง้ามีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม ถ้าพบรอยที่ผิวเหง้านั่นเป็นบริเวณที่จะงอกของต้นใหม่ ส่วนเนื้อภายในของเหง้ามีสีม่วงอ่อน สีม่วงเข้ม ไปจนถึงสีม่วงดำ เหง้ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมีรสชาติขมเล็กน้อย

ถิ่นที่อยู่

การนำไปใช้ประโยชน์

เหง้า ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ขับลม แก้บิด แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด ช่วยรักษาอาการโรคกระเพาะจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่า กระชายมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ ต้านการอักเสบเทียบได้กับยาหลายชนิด เช่น แอสไพริน อินโดเมธาซิน และเพรดนิซิโลน