เชียงดา, เจียงดา, ผักเจียงดา, ผักเซียงดา, ผักกูด, ผักจินดา, ผักเซ่งดา, ผักม้วนไก่, ผักเซ็ง, ผักว้น, ผักฮ่อนไก่, ผักอีฮ่วน, เครือจันปา
Gymnema inodorum (Lour.) Decne.
อยู่ในวงศ์ตีนเป็ด (APOCYNACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยนมตำเลีย (ASCLEPIADOIDEAE หรือ ASCLEPIADACEAE)
1. ต้นผักเชียงดา
จัดเป็นไม้เถาเลื้อย มีอายุข้ามปี ความยาวของเถาขึ้นอยู่กับอายุ ลำต้นเป็นสีเขียว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-5 เซนติเมตร ทุกส่วนที่อยู่เหนือดินของต้นจะมีน้ำยางสีขาวคล้ายน้ำนม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการปักชำ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำดี เป็นผักพื้นบ้านที่ชาวเหนือในแถบจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา นิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพื่อนำยอดไปประกอบอาหาร ส่วนในต่างประเทศพบได้ที่ประเทศอินเดีย ศรีลังกา เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น จีน และแอฟริกา
2. ใบผักเชียงดา
ใบเป็นใบเดี่ยว ออกจากข้อเรียงเป็นคู่ตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปกลมรี ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 9-11 เซนติเมตร และยาวประมาณ 14.5-18.5 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม ท้องใบมีสีอ่อนกว่า ผิวใบเรียบไม่มีขน ก้านใบยาวประมาณ 3.5-6 เซนติเมตร
3. ดอกผักเชียงดา
ออกดอกเป็นช่อแน่นสีขาวอมเขียวอ่อน ดอกย่อยมีขนาดเล็กกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-6 มิลลิเมตร
4. ผลผักเชียงดา
ออกผลเป็นฝัก
ผักพื้นบ้านทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย
1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2
2. ฟื้นฟูและบำรุงเบต้าเซลล์ตับอ่อน
3. ชำระล้างสารพิษตกค้างและฟื้นฟูตับอ่อนให้แข็งแรง
4. กระตุ้นระดับอินซูลินในร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุลอ่อนเพลีย
5. บำรุงและซ่อมแซมหมวกไตและระบบการทำงานของไตให้สมบูรณ์
6. ปรับและควบคุมระดับความดันโลหิตให้เป็นปรกติ
7. ลดและควบคุมปริมาณไขมัน (Cholesterol) ในร่างกายให้สมดุล
8. ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับสบาย
9. บรรเทาอาการภูมิแพ้และหืดหอบ
10. บรรเทาอาการปวดข้อ จากโรคเก๊าต์
11. ลดภาวะเซลล์เม็ดเลือดแดงแตก และ DNA ถูกทำลาย